ข้อสอบ พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓

1. พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อใด

• 2 เมษายน   2553                                      ค. 6  เมษายน   2553
• 4 เมษายน   2553                                      ง. 8  เมษายน   2553

ตอบ   ก.   2  เมษายน   2553

2. พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ บังคับใช้เมื่อใด

• พ้นกำหนดหนึ่งร้อยวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
• พ้นกำหนดหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
• พ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
• พ้นกำหนดหนึ่งร้อยเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ตอบ   ค.      พ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

3. พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓ ให้ยกเลิกกฎหมายในข้อใด

• พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๒๓
• พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๓๓
• พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
• ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ

4. ข้อใด ไม่ใช่ ความหมายของ “การรักษาพยาบาล”

• การตรวจสุขภาพ
• การเสริมความงาม
• การให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขโดยตรงแก่ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวของผู้มีสิทธิ
• การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคเพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุข

ตอบ   ข.  การเสริมความงาม

5. ข้อใด ไม่ใช่ “ค่ารักษาพยาบาล”

• ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจ
• ค่าเสริมจมูก
• ค่าตรวจวินิจฉัยโรค
• ค่ายา

ตอบ   ข.  ค่าเสริมจมูก

6. ข้อใดเป็นค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด

• ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค
• ค่าตรวจครรภ์ ค่าธรรมเนียมพิเศษ
• ค่าธรรมเนียมแพทย์พิเศษ ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์
• ค่าจ้างผู้พยาบาลพิเศษ ค่าเลือดและส่วนประกอบของเลือด

ตอบ   ก.         ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์ในการบำบัดรักษาโรค

7. ข้อใดคือ“สถานพยาบาลของทางราชการ”

• สถานพยาบาลของมหาวิทยาลัยของรัฐ
• สถานพยาบาลซึ่งเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
• สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
• ถูกทุกข้อ

ตอบ    ง. ถูกทุกข้อ

8. ข้อใด ไม่ใช่ “ผู้มีสิทธิ”

• ลูกจ้างชาวต่างประเทศซึ่งมีหนังสือสัญญาจ้างที่ได้รับค่าจ้างจากเงินงบประมาณรายจ่ายและสัญญาจ้างนั้นมิได้ระบุเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลไว้
• ข้าราชการตำรวจชั้นพลตำรวจซึ่งอยู่ในระหว่างรับการศึกษาอบรมในสถานศึกษาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการประจำ
• ผู้ได้รับบำนาญปกติหรือผู้ได้รับบำนาญพิเศษเพราะเหตุทุพพลภาพตามกฎหมาย
• ข้าราชการและลูกจ้างประจำซึ่งได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำจากเงินงบประมาณรายจ่ายงบบุคลากรของกระทรวง ทบวง กรม

ตอบ   ข.  ข้าราชการตำรวจชั้นพลตำรวจซึ่งอยู่ในระหว่างรับการศึกษาอบรมในสถานศึกษาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการประจำ

9. ข้อใด ไม่ใช่ “บุคคลในครอบครัว”

• คู่สมรสที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสิทธิ
• บิดาหรือมารดาที่ชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสิทธิ
• บุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้มีสิทธิซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
• บุตรบุญธรรม

ตอบ   ง.  บุตรบุญธรรม

10. ผู้มีสิทธิมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับบุตรคนที่เท่าใด

• คนที่ 1                                                                                  ค. คนที่  1 ถึง คนที่  3
• คนที่ 1 ถึง คนที่  2                                                            ง. คนที่  1 ถึง คนที่  4

ตอบ   ค. คนที่  1 ถึง คนที่  3

11. ผู้มีสิทธิมีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลสำหรับตนเองหรือบุคคลในครอบครัวของตน ในกรณีใด

• การเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนประเภทผู้ป่วยนอก เป็นครั้งคราว เพราะเหตุที่สถานพยาบาลของทางราชการมีความจำเป็นต้องส่งตัวให้แก่สถานพยาบาลของเอกชนนั้น
• การเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของทางราชการ ทั้งประเภทผู้ป่วยนอกหรือผู้ป่วยใน
• การเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของเอกชนตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด ประเภทผู้ป่วยใน
• ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ

12. ข้อใดต่อไปนี้ที่ผู้มีสิทธิไม่มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกานี้

• ผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวได้รับค่าสินไหมทดแทนเพราะเหตุละเมิดเป็นค่ารักษาพยาบาลจากบุคคลอื่นแล้ว
• บุคคลในครอบครัวได้รับเงินค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิของตนเองจากหน่วยงานอื่น
• ถูกทั้ง ก  และ  ข
• ไม่มีข้อถูก

ตอบ   ค. ถูกทั้ง  ก  และ  ข

13. ในการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลผู้มีสิทธิสามารถดำเนินการได้อย่างไร

• นำหลักฐานการรับเงินที่สถานพยาบาลซึ่งตนเองหรือบุคคลในครอบครัวเข้ารับการรักษาพยาบาลออกให้มายื่นต่อส่วนราชการเจ้าสังกัด
• ให้สถานพยาบาลนั้นเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลแทนโดยระบบการเบิกจ่ายตรง
• ถูกทั้ง ก  และ  ข
• ไม่มีข้อถูก

ตอบ    ค.       ถูกทั้ง  ก  และ  ข

14. ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓

• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
• รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
• นายกรัฐมนตรี

ตอบ    ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

15. ใครเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการตามพระราชกฤษฎีกานี้

• นายชวน หลีกภัย                                                               ค.  นายบรรหาร   ศิลปอาชา
• นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ง.  พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร

ตอบ   ข.  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ